อย่าให้ใครฆ่าห่านทองของคุณ
23 กันยายน 2562 | เขียนโดย Pan Pho Team.
ถอดบทเรียนจากนิทานอีสป ‘The Golden Goose’ ความสำเร็จไม่เคยเป็นเรื่องยากเพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิด
คุณเคยมีความคิดเหล่านี้เข้ามาในความคิดของคุณไหม? “ฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยไม่กี่สตางค์ ไม่ต้องฝากหรอก” หรือ “จะเก็บเงินไว้ทำไม เมื่อไหร่ถึงจะได้ใช้เงินกัน” หรือ “ใช้เงินไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยหาใหม่” หากคุณมีความคิดไม่ต่างจากประโยคข้างต้น นั่นหมายความว่า ในอนาคตคุณจะไม่มีเงินเหลืออยู่ในมือสักบาทเดียว แล้วสิ่งที่คุณทำอยู่มันแปลกตรงไหน? ใครๆ ก็ทำกันไม่ใช่หรอ? “เพราะเหตุนี้ไงที่ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดปัญหาทางการเงิน”
นิทานสอนใจเรื่องการเงินที่คุณอาจเคยได้ยินมาแล้ว
เรื่องเงินๆ ทองๆ เกี่ยวข้องกับมนุษย์มานานหลายศตวรรษ เห็นได้ชัดจาก ‘นิทานอีสป’ เรื่องเล่าผ่านการกระทำของมนุษย์และสัตว์ นอกจากความบันเทิง ยังแฝงไปด้วยบทเรียนอันแสนมีค่า คุณอาจเคยฟังแล้วปล่อยผ่าน ไม่ได้เอะใจเลยสักนิด
แล้วนิทานอีสปที่คุณเคยฟังก่อนนอนตอนเด็ก มันเกี่ยวอะไรกับการเงิน? หลายคนคงเคยได้ยินนิทานเรื่อง “The Golden Goose อภินิหารห่านทองคำ” แต่เชื่อไหมว่าอาจจะมีสักช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่ตัวคุณเองกลายเป็นตัวละครในนิทานเรื่องนี้
ชาวนาเลี้ยงห่านเพื่อหวังเก็บไข่ไว้ขาย วันหนึ่งเขาสังเกตเห็นไข่ทองคำสีเหลืองทองอร่าม จึงนำไปขายทุกวันจนร่ำรวย แต่แล้ววันหนึ่งเขาอยากมีเงินทองมากกว่านี้ เขาคิดว่าในท้องห่านนั่นต้องมีไข่ทองคำอยู่มากแน่ๆ จึงตัดสินใจผ่าท้องห่าน สิ่งที่เขาพบกลับเป็นเพียงความว่างเปล่า.. ไม่มีแล้วไข่ทองคำ ไม่มีแล้วห่าน ไม่เหลืออะไรเลย เขาสูญเสียรายได้อย่างถาวร กลับกลายเป็นเหมือนความสุขเพียงชั่วครู่เท่านั้น
นี่อาจจะฟังเหมือนนิทานปรัมปราทั่วๆไป ที่คุณมักคิดว่า ชาวนานั้นไม่ฉลาดเอาเสียเลย แต่ในความเป็นจริงนั้น มีใครหลายๆ คนในโลกนี้เอง ที่ทำตัวเหมือนกับชาวนาคนนั้นอย่างไม่รู้ตัว
แล้วทำไมใครหลายๆคนถึงยังเป็นอย่างชาวนาคนนั้นอยู่หล่ะ?
ทำไมชาวนาถึงมีวิธีคิดและทำอย่างนั้น? จากความคิดง่ายๆ ห่านออกไข่ทุกวัน ในท้องมันต้องมีไข่ทองคำเป็นกอบเป็นกำ ชาวนาหวังเพียงอยากมีเงินใช้ให้ทันใจ ยกตัวอย่างเช่น คุณฝากเงินไว้ในธนาคาร แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มใช้จ่ายเกินตัวและเป็นหนี้สิน เมื่อนั้นคุณจึงตัดสินใจหยิบเงินในธนาคารของคุณออกมาใช้ และสูญเสียเงินทั้งหมดในที่สุด ปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการเงิน
ต้นตอปัญหาที่สำคัญที่สุดมาจาก “วิธีคิด” ของคุณต่างหาก ในทางกลับกันถ้าชาวนาเลือกฟูมฟักไข่ห่านให้ออกลูกออกหลานอีก 5 ตัว 10 ตัว คุณจินตนาการออกไหมว่ามันจะกลายเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าผ่าท้องห่านแค่ไหน แม้จะได้เงินช้า แต่มีรายได้อย่างยั่งยืน หากวันนี้คุณยังคงฝากเงินในธนาคารต่อไปเรื่อยๆ ดอกเบี้ยจำนวนน้อยนิดที่คุณรังเกียจมัน จะค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้น อย่างสม่ำเสมอ และกลายเป็นเงินก้อนโตในที่สุด
มันไม่สำคัญที่คุณมีเงินเท่าไหร่ แต่สำคัญที่วิธีการคิดของคุณ
“ถ้าคุณเคยมองว่าทุกปัญหาเป็นเรื่องใหญ่เกินจะรับมือไหว” จงเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ “ทุกปัญหาที่เข้ามาเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยในชีวิต” ไม่มีความสำเร็จใดอยู่ในมือคนที่หนีปัญหา แต่ความสำเร็จมักวิ่งเข้าหาคนที่พร้อมท้าชนกับอุปสรรคและปัญหาที่ถาโถม
“ถ้าคุณเคยอยากประสบความสำเร็จ แต่ไม่อยากทำงานหนัก” จงเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ “คุณจะทุ่มเทและทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ” สิ่งที่คุณต้องทำ คือมุ่งมั่นสร้างฐานะ อย่ารีรอหรืออ้อนวอนต่อพระเจ้า ‘ให้ฉันรวยเร็ววันเร็วคืนด้วยเถิด’ แต่อย่างที่คุณรู้ดี เงินทองไม่ได้หล่นจากฟ้าเสียหน่อย
“ถ้าคุณเคยคิดว่าชีวิตฉันถูกฟ้าลิขิตให้เป็นแบบนี้” จงเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ “คุณจะเป็นคนลิขิตชะตาชีวิตของตัวเอง” คนประสบความสำเร็จทุกคนมักกระโจนเข้าไปหาความรู้และคลุกคลีกับการเงิน ไม่มีคนประสบความสำเร็จที่ไหนนั่งรอให้โชคหล่นทับ หรือมัวแต่ลุ้นล็อตเตอรี่ทุกต้นเดือนหรอก
ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณเคยมีความคิดแบบคนทั่วไป เพราะระบบความคิดที่ถูกปลูกฝัง หรือเรียกอีกชื่อว่า Mindset ระบบเหล่านี้ถูกหล่อหลอมจากครอบครัว สภาพสังคม และประสบการณ์ที่เคยพบเจอ ล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณโดยไม่รู้ตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องเงินๆ ทองๆ
ยกตัวอย่าง ถ้าพ่อแม่ของคุณเป็นคนไม่รู้จักเก็บออม หาเงินได้เท่าไหร่ก็ใช้เสียหมด คุณเห็นภาพการจ่ายเงินซ้ำๆ นั่นทำให้มีความเป็นได้สูงที่คุณจะมีนิสัยการใช้เงินแบบเดียวกับครอบครัวหรือคนใกล้ตัวของคุณอย่างไม่ผิดเพี้ยน และนั่นเองอาจเป็นสิ่งที่ขวางกันคุณจากชีวิตที่คุณต้องการ
ความสำเร็จขึ้นอยู่กับวิธีคิดของคุณ
คุณอาจเป็นคนที่เคยคิดว่าการประสบความสำเร็จมักต้องแลกกับการไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำงานหนัก ร่างกายย่ำแย่ สุขภาพจิตเสีย ความคิดเหล่านั้นเองจะเป็นตัวที่บ่งบอกว่าคุณจะสามารถประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงไหน ในขณะที่ความเป็นจริงแล้วยิ่งคุณประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ คุณยิ่งมีเวลาว่างให้ทั้งตัวเองและครอบครัวมากเท่านั้น
เช่นเดียวกับนิทานที่คุณได้อ่านไป คนส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะฆ่าห่านของพวกเขา เพียงเพราะว่าพวกเขาโลภและต้องการความสำเร็จแบบเร่งด่วน ในขณะที่คนที่ประสบความสำเร็จนั้นมี Mindset ที่มองการณ์ไกลและอดทน ซึ่งนั่นเองเป็นเหตุผลให้คนเหล่านี้มีห่านทองคำนับร้อยนับพันตัว
คุณอาจคิดว่าคุณเป็นคนที่โชคร้าย และดูเหมือนว่าโชคชะตาจะไม่ค่อยส่งเสริมคุณเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้น ความสำเร็จนั้นไม่เคยเป็นเรื่องของโชคชะตา และไม่ว่าคุณเป็นใคร มีอาชีพอะไร หรือเกิดมาร่ำรวยหรือยากจน ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะว่า ความสำเร็จเป็นเรื่องของวิธีคิด และวิธีคิดนั้นสามารถเรียนรู้กันได้
จากประสบการณ์การทำธุรกิจที่พลิกจากความล้มเหลวกลายเป็นความสำเร็จของ T.Harv Eker ผู้เขียนหนังสือ The Secret of Millionaire Mind ทำให้เขาวิเคราะห์สาเหตุและค้นพบว่า ความล้มเหลวที่ผ่านมาสามารถแก้ไขได้ด้วย Money Mindset นั่นเอง เขาจึงอยากถ่ายทอดประสบการณ์เหล่านี้ผ่านงานสัมมนา Millionaire Mind Intensive โดย T.Harv Eker ที่จะช่วยเปลี่ยนวิธีคิดของคุณใหม่ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยกระดับการเงินแบบก้าวกระโดดทั้งในด้านการหาเงิน การลงทุน และการบริหารจัดการเงิน
ความสำเร็จทางการเงินขึ้นอยู่กับวิธีคิดของคุณ ถ้าคุณคิดแบบผิดๆ ไม่ว่าคุณจะมีห่านในมือเป็นร้อยเป็นพันตัว ก็เป็นเรื่องยากที่จะไปถึงเส้นชัยของความสำเร็จ แต่หากคุณทำความเข้าใจวิธีคิดและปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองที่มีต่อเงิน จากชาวนาที่ไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ห่าน “คุณอาจกลายเป็นเศรษฐีไข่ทองคำก็ได้” ใครจะไปรู้กันหล่ะ
ภารกิจของเราคือ ยกระดับชีวิตผู้คนด้วยความรู้คุณภาพ ผ่านประสบการณ์สัมมนาจากสุดยอดนักพูด เจ้าของธุรกิจ และนักสร้างแรงบันดาลใจแถวหน้า เพื่อสร้างผลัพธ์ด้านธุรกิจ ชีวิต และการเงินให้แก่ผู้คน
- PAN PHO TEAM.