มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ

อ้างอิงจาก ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่รับลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้าศึกษาหรือฝึกอบรม ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567

สำหรับหลักสูตรที่อยู่ภายใต้บริษัท แพน โฟ จำกัดทุกหลักสูตรที่จัดในประเทศไทยได้อยู่ภายใต้มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศในสถาบันศึกษาประเภท จ. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป โดยท่านจะได้รับสิทธิ์ในการนำค่าใช้จ่ายหลักสูตร (รวมภาษี) ไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ถึง 200%  ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อนำยื่นสรรพากรดังต่อไปนี้

1. เอกสารฟอร์ม ให้ท่านกรอกเอกสารฟอร์มที่กำหนดโดยกระทรวงแรงงาน (รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขา อาชีพ กรณีส่งไปรับการฝึกกับสถานฝึกอบรมอื่น (แบบ ฝย/ฝป.2-2)

โดยให้ท่านกรอกรายละเอียดดังนี้:

       1.) ลำดับ: ให้ใส่ลำดับจำนวนผู้เข้าอบรม
       2.) หลักสูตร: ให้ใส่ชื่อหลักสูตรตามใบเสร็จที่ท่านได้รับ
       3.) วันที่ฝึกอบรม: ให้ใส่วันที่เริ่มและวันที่จบของหลักสูตร
       4.) ระยะเรียน: ให้ใส่เวลาเรียนเป็นชั่วโมง (รวมเวลาพัก)
       5.) ชื่อสถานศึกษา/ สถาบันฝึกอบรมฝีมือแรงงาน เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร: ให้ท่านใส่ว่า “บริษัท แพน โฟ จำกัด เลขประจำตัวเสียภาษี_______(ตามใบเสร็จที่ท่านได้รับ)________* (กรณีที่ท่านลงหลักสูตร SILPAKORN UNIVERSITY REAL ESTATE:SURE ให้ท่านใส่ว่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร)
       6.) รุ่นที่: ใส่รุ่นที่ผู้เรียนเข้าร่วม
       7.) เลขประจำตัวประชาชน: ให้ใส่เลขประจำตัวประชาชนของผู้อบรมลงไปในช่องนี้
       8.) ชื่อผู้เข้ารับการศึกษา/ ฝึกอบรม: ใส่ชื่อ สกุลผู้ที่มาลงทะเบียนเรียน (จะต้องตรงกับในทะเบียนจริงและแสดงตัวในวันสัมมนาจริง)
       9.) ตำแหน่ง: ตำแหน่งงานของผู้ที่ส่งมาอบรม
       10.) จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม: ให้ใส่เลข 1 ลงไปในเพศของท่าน (ชาย/หญิง) และใส่รวม
       11.) ค่าธรรมเนียมการฝึกอบรม (บาท/ ท่าน): ให้ใส่จำนวนเงินที่ท่านชำระ (รวมภาษี) 
       10.) ค่าธรรมเนียมการฝึกอบรม (บาท/ รุ่น): ให้ใส่จำนวนเงินที่ท่านชำระทั้งหมดที่ท่านชำระให้กับบริษัท (รวมภาษี) ของผู้อบรมทุกท่านภายใต้สังกัดของท่าน

2. ให้ท่านจัดเตรียมเอกสารแนบท้าย โดยเรียงลำดับให้ถูกต้องดังนี้:

       ✅ กำหนดการฝึกอบรมโบรชัวร์ ใบสมัคร
       ✅ หลักฐานหลักสูตรหรือหัวข้อการฝึกอบรมของสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรม (ใบประกาศนียบัตร/ หลักฐานการลงทะเบียน/ E-Mail จดหมายยืนยันเข้าร่วมงาน)
       ✅ หนังสือส่งตัว/หนังสือขออนุมัติ/หนังสือเชิญให้เข้ารับการฝึกอบรม/หนังสือตอบรับ/หนังสือรับรองการ ฝึกอบรม (ถ้ามี)
       ✅ หลักฐานค่าธรรมเนียมในการฝึกอบรม (ใบกำกับภาษี)
       ✅ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคลและเป็นการยื่นคำขอครั้งแรก)
       ✅ หนังสือมอบอำนาจ (เจ้าของกิจการมอบหมายให้…. เป็นผู้ดำเนินการ)
       ✅ บัตรประจำตัวประชาชน (สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบ 1 ฉบับ บัตรประชาชนฉบับจริงของผู้รับมอบ 1 ฉบับ)

หมายเหตุ:
− สำเนาเอกสารทุกฉบับต้องมีการรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้มีอำนาจลงนามแทนบริษัทหรือผู้รับมอบอำนาจ
− สามารถเข้าใช้งานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ได้ทางเว็บไซต์ http://e-service.dsd.go.th
− ผู้แทน/ผู้มาส่งเอกสาร/พนักงานส่งเอกสารนั้นไม่มีอำนาจในการทำบันทึกข้อตกลงสองฝ่ายแทนผู้ยื่นคำขอ จนกว่าจะได้รับมอบอำนาจอย่างถูกต้อง

3. ติดต่อ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อดำเนินการยื่นเอกสารและรายละเอียดการอบรม โดยท่านสามารถยื่นได้ใน 2 กรณีดังนี้:

      3.1 ณ จุดรับคำขอกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (สถาบัน/สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกจังหวัด)
      3.2 สมัครและเข้าใช้งานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ได้ทางเว็บไซต์ http://e-service.dsd.go.th เปิดให้บริการ วันจันทร์ – วันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดที่ราชการกำหนด) ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. (มีพักเที่ยง) โดยท่านสามารถดาวน์โหลดคู่มือการใช้งานระบบได้ที่นี่

โดยปกติแล้ว จะกำหนดใช้ระยะเวลา 1 วัน สำหรับการยื่นเอกสารเพื่อขอการอนุมัติ และใช้ระยะเวลา 2 วัน สำหรับการรอพิจารณา ซึ่งท่านสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.dsd.go.th/sdpaa/Region/Download_Doc/35974

4. นำเอกสารรับรองหลักสูตรที่ได้รับจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยื่นที่ฝ่ายการเงินและบัญชีของบริษัทเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการยื่นขอลดหย่อนภาษีค่าฝึกอบรม 200% จาก กรมสรรพากร